ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และทำไมต้องฉีดทุกปี วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาคลายข้อสงสัยให้ค่ะ
ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอหรือจาม และการสัมผัสมือหรือการใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร่วมกับผู้ป่วย อาการเบื้องต้นคล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกายมากกว่าปกติ และมีโอกาสที่จะรุนแรง เกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่าและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดความรุนแรงได้ประมาณ 70-80%
รู้หรือไม่?วัคซีนไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดทุกปี
เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ วัคซีนแต่ละปีจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามเชื้อไวรัส จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกปี สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนในประเทศไทย คือ ช่วงก่อนที่จะเริ่มมีการระบาด ได้แก่ ก่อนฤดูฝน หรือก่อนฤดูหนาว คือประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
โดยองค์การอนามัยโลก(WHO) แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ประจำปี 2024 Southern strain ได้แก่
• ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Victoria (H1N1) (an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09-like virus)
• ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Thailand (H3N2) (an A/Thailand/8/2022 (H3N2)-like virus)
• ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Austria (a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)-like virus)
• ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Phuket (a B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage)-like virus)
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นการป้องกันและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย การลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน โอกาสที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตลงได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอหรือจาม และการสัมผัสมือหรือการใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร่วมกับผู้ป่วย อาการเบื้องต้นคล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกายมากกว่าปกติ และมีโอกาสที่จะรุนแรง เกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่าและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดความรุนแรงได้ประมาณ 70-80%
รู้หรือไม่?วัคซีนไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดทุกปี
เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ วัคซีนแต่ละปีจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามเชื้อไวรัส จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกปี สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนในประเทศไทย คือ ช่วงก่อนที่จะเริ่มมีการระบาด ได้แก่ ก่อนฤดูฝน หรือก่อนฤดูหนาว คือประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
โดยองค์การอนามัยโลก(WHO) แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ประจำปี 2024 Southern strain ได้แก่
• ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Victoria (H1N1) (an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09-like virus)
• ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Thailand (H3N2) (an A/Thailand/8/2022 (H3N2)-like virus)
• ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Austria (a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)-like virus)
• ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Phuket (a B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage)-like virus)
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นการป้องกันและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย การลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน โอกาสที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตลงได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
Medical Center: Internal Medicine Center
Publish date desc: 15/05/2024
Author doctor
Dr. Bunjerd Poomsai
Specialty
Physician