• banner

กระดูกสันหลังคด รู้เร็ว รักษาได้

กระดูกสันหลังคด เป็นภาวะความผิดปกติที่พบได้ทุกเพศทุกวัย พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พบมากในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงาน ภาวะหลังคดนี้ นอกจากจะทำให้บุคลิกภาพไม่ดีแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรค หรืออาการต่างๆ ตามมาได้อีกมากมาย

โรคกระดูกสันหลังคดคืออะไร

โรคกระดูกสันหลังคด คือ โรคที่ผู้ป่วยจะมีลักษณะของกระดูกสันหลังผิดรูป เริ่มโค้งงอไปทางด้านข้างและหากวัดมุมส่วนโค้ง หรือที่เรียกว่ามุมกระสันหลังคด (Cobb angle) มีมากกว่า 10 องศา

สาเหตุ
ส่วนใหญ่ไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน ที่เรียกว่ากระดูกสันหลังคดชนิดไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Scoliosis) พบบ่อยในเด็กวัยรุ่นช่วงอายุประมาณ 10-15 ปี ในบางรายอาจสังเกตเห็นตั้งแต่เด็กเล็กๆ ก็ได้ ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดกระดูกสันหลังคด ได้แก่

โรคกระดูกสันหลังคดตั้งแต่กำเนิด (Congenital Scoliosis) การคดชนิดนี้มักเป็นมาตั้งแต่เกิด หรือค่อยๆ คดมากขึ้นตั้งแต่เด็กเล็ก และส่งผลให้พัฒนาการทางร่างกายมีความผิดปกติร่วมด้วย แม้ว่าอาจจะแก้ไขให้กระดูกอยู่ในแนวที่ถูกต้อง 100% ไม่ได้ แต่ก็สามารถปรับให้ดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง โดยชะลอการเพิ่มขึ้นของกระดูกสันหลังคดไม่ให้รวดเร็วเกินไป กระดูกคดชนิดนี้ ถ้ามีการคดมากอาจมีผลต่อการทำงานของปอดและจำกัดการขยายตัวของปอดได้

โรคกระดูกสันหลังคดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อระบบประสาท (Neuromuscular Scoliosis) การคดชนิดนี้เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อ หรือระบบประสาท ทำให้กระดูกสันหลังค่อยๆ คดขึ้นมาภายหลัง การคดชนิดนี้รักษายากและได้ผลไม่ดี

โรคกระดูกสันหลังคดจากความเสื่อมของกระดูกสันหลัง (Degenerative Scoliosis) การคดชนิดนี้เกิดในผู้สูงอายุที่มีความเสื่อมของกระดูกสันหลัง อาจมีกระดูกสันหลังเคลื่อนร่วมด้วย แล้วมีกระดูกสันหลังคดมากขึ้นตามมาภายหลัง อาจเกิดจากความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อหลังก็ได้

กระดูกสันหลังคดจากสาเหตุอื่น (Functional Scoliosis) การคดแบบนี้ไม่ได้เกิดจากกระดูกสันหลังคดโดยตรง อาจเกิดจากขายาวไม่เท่ากัน มีการอักเสบที่อื่นๆ นอกกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ หรืออาจเกิดจากท่าทางผิดปกติที่เกิดขึ้นซ้ำทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง และต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ท่าทางการทำงานของร่างกายที่ไม่สมดุล เช่น การนั่งลงน้ำหนักที่ก้นด้านเดียว สะพายกระเป๋าด้านเดียว การวางจอคอมพิวเตอร์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ อุปนิสัยเช่นนี้เมื่อเคยชินก็จะทำโดยไม่รู้ตัว และอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดกระดูกสันหลังคดได้หากกระทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

อาการ
• แนวกระดูกสันหลังไม่ตรง
• ระดับหัวไหล่ 2 ข้างไม่เท่ากัน
• ด้านหลังอาจมีกระดูกนูน เห็นชัดในท่าก้มตัวไปข้างหน้า

ผู้ป่วยที่เป็นหลังคดชนิดไม่ทราบสาเหตุ มักมาพบแพทย์ด้วยความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง มีคนไข้ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีอาการปวดหลังร่วมด้วย ส่วนหลังคดจากสาเหตุอื่นๆ อาจมีปวดหลังร่วมด้วย

วิธีการใดที่สามารถบอกว่าเราอาจเป็นโรคกระดูกสันหลังคด
นอกจากแนวกระดูกสันหลังไม่ตรง ความสูงของระดับหัวไหล่ไม่เท่ากันแล้ว อาจดูได้จากการตรวจง่ายๆ คือ Adam’s forward bending test ให้ผู้ป่วยยืนเท้าชิดกัน และให้ก้มไปด้านหน้า พยายามใช้มือ 2 ข้างแตะพื้น จะเห็นความนูนของหลังไม่เท่ากัน

การวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังคด
นอกจากการดูลักษณะที่ผิดปกติแล้ว แพทย์จะตรวจการทำงานของระบบประสาท และอาจส่งตรวจทางรังสี หรือส่งเอกซเรย์เพื่อการวินิจฉัย และประเมินระดับความรุนแรงของโรค

ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคดชนิดไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Scoliosis) จะต้องทำอย่างไร
ผู้ป่วยและญาติต้องเข้าใจโรคกระดูกสันหลังคด การดำเนินโรค และคอยช่วยแพทย์สังเกตความเปลี่ยนแปลง ความคดของกระดูกสันหลัง และมาติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพราะจุดประสงค์การรักษา คือ ควบคุมหรือลดการคดของกระดูกสันหลังไม่ให้เพิ่มมากขึ้น 

ดังนั้น หลังจากแพทย์ประเมินระดับความรุนแรงของโรค อายุกระดูก และการเจริญเติบโตของผู้ป่วยแล้วจึงจะพิจารณาให้การรักษา

ทางเลือกการรักษา การรักษาแบ่งได้เป็น 2 แนวทาง คือ
• การรักษาด้วยการไม่ผ่าตัด การรักษาวิธีนี้ใช้ในกรณีผู้ป่วยมีมุมองศาที่คดไม่มาก โดยการใช้การสังเกตอาการ (observe) หรืออาจะต้องใช้เสื้อเกราะ (brace) ในผู้ป่วยบางราย
• การรักษาด้วยการผ่าตัด การรักษาวิธีนี้ใช้ในกรณีผู้ป่วยมีมุมองศาที่คดมาก หรือมีการเพิ่มของมุมองศาที่คดมากขึ้นขณะติดตามการรักษา

การรักษาด้วยการสังเกตอาการ (Observe)
กรณีที่ผู้ป่วยมีมุมองศาที่คดไม่มากจึงสามารถใช้วิธีการรักษานี้ได้ โดยการสังเกตว่ากระดูกสันหลังคดมากขึ้นหรือไม่ และจำเป็นต้องมาติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดทุก 4-6 เดือน ถ้ามีการเพิ่มขึ้นของมุมองศาที่คด อาจต้องใช้การรักษาอื่นร่วมด้วย

ถ้าต้องรักษาด้วยเสื้อเกราะ (Brace) ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
การรักษาจะใช้เสื้อเกราะ (brace) ใส่ป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังคดมากขึ้น ผู้ป่วยจะใส่ตลอดเวลาประมาณ 23 ชั่วโมงต่อวัน ยกเว้นเวลาอาบน้ำสามารถถอดได้ การใส่เสื้อเกราะจะต้องใส่จนกว่าผู้ป่วยหยุดเจริญเติบโต และค่อยๆ ลดจำนวนชั่วโมงที่ใส่ลงจนแน่ใจว่ากระดูกสันหลังไม่คดมากขึ้นแล้ว ก็จะหยุดใส่ได้

จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเมื่อไร
• ผู้ป่วยที่มีมุมของกระดูกสันหลังคดมากกว่า 45 องศาในวัยกำลังเจริญเติบโต (Immature)
• ผู้ป่วยที่มีมุมของกระดูกสันหลังคดมากกว่า 50-55 องศาในวัยที่หยุดการเจริญเติบโตแล้ว (Maturity)
• ผู้ป่วยที่มีการคดของกระดูกสันหลังมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะรับการรักษาโดยการใส่เสื้อเกราะ (Brace)

การรักษาด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดมีจุดประสงค์เพื่อลดความผิดรูปของกระดูกสันหลัง และทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในภาวะสมดุล โดยการผ่าตัดแพทย์จะพยายามจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วใช้อุปกรณ๋โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลัง หลังจากนั้นทำการเชื่อมกระดูกสันหลังและเย็บปิดแผล

โรคกระดูกสันหลังคดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และในแต่ละชนิดก็มีความรุนแรงของโรคและการดำเนินของโรคแตกต่างกันไป สำคัญที่การวินิจฉัยในระยะแรกๆ ของโรค ถ้าวินิจฉัยได้เร็วและเริ่มการรักษาได้เร็ว ก็อาจจะสามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้ ดังนั้นถ้าตรวจพบ ควรรีบมาพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นจากสาเหตุใด เพื่อการเฝ้าระวังอย่างถูกต้อง และให้การรักษาที่เหมาะสม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
Medical Center: Bone and Joint Center
Publish date desc: 12/11/2024

Author doctor

Dr. Sanyapong Sanpakit

img

Specialty

Orthopaedic Surgeon

Other Specialty

-

Language Spoken

Thai, English

Contact us

Other package