โรคเยื่อบุตาอักเสบจากคอนแทคเลนส์
คอนแทคเลนส์ (contact lens) อุปกรณ์เพื่อช่วยการมองเห็นให้ดีขึ้น บางชนิดใส่เพื่อความสวยงาม หรือใช้เพื่อรักษาโรคตาบางอย่าง มีหลายๆ คนที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่าอาจมีความเสี่ยงที่ดวงตาจะติดเชื้อจากคอนแทคเลนส์ได้ ส่งผลให้การมองเห็นที่มัวลง
คอนแทคเลนส์ (contact lens) มีใช้มานานกว่า 100 ปีแล้ว เพื่อช่วยการมองเห็นให้ดีขึ้น บางชนิดเพื่อความสวยงาม หรือใช้เพื่อรักษาโรคตาบางอย่าง แม้ว่ามีการพัฒนาการออกแบบคอนแทคเลนส์ให้ใส่สบายตาขึ้น นุ่มนวลขึ้น แต่คอนแทคเลนส์ก็ถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับดวงตาอยู่ดี และเนื่องจากคอนแทคเลนส์ต้องสัมผัสกับดวงตาเราโดยตรง จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาได้หากไม่ได้ดูแลให้ดีพอ
การใช้คอนแทคเลนส์อาจก่อให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบ คือ การอักเสบระคายเคืองที่เยื่อบุตา หรือตาขาวมีสาเหตุได้จากหลายประการ เช่น เลือกชนิดคอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม ระคายเคืองจากน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ การระคายเคืองจากการที่ใส่เป็นเวลานานในแต่ละวัน หรือการใช้ต่อเนื่องกันนานหลายปี
อาการเยื่อบุตาอักเสบ เช่น เคืองตา แสบตา รู้สึกระคายตาเหมือนมีเม็ดทรายในตา ตาแดง บวม คันตา ต้องขยี้ตาบ่อยๆ ถ้าเป็นมากอาจมีปัญหาเวลาใส่คอนแทคเลนส์แล้วเจ็บตา หรืออาจถอดคอนแทคเลนส์ยากขึ้น บางครั้งขณะใส่คอนแทคเลนส์ ตัวคอนแทคเลนส์อาจหลุดออกมาเอง หรือคอนแทคเลนส์เลื่อนง่ายเวลากระพริบตา เป็นต้น
ผู้ที่มีเยื่อบุตาอักเสบมาก จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่กระจกตาสูงกว่าคนทั่วไป เพราะเชื้อโรคต่างๆ สามารถเข้าเนื้อเยื่อที่อ่อนแอนี้ได้ง่าย
กระจกตาอักเสบติดเชื้อในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์มักจะมีอาการรุนแรง เนื่องจากเชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็นเชื้อก่อโรคที่มีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อสูง
อาการกระจกตาอักเสบติดเชื้อ เช่น เคืองตามาก ตามัวลง ตาแดง และมีขี้ตามาก อาจพบจุดฝ้าขาวที่กระจกตาซึ่งบ่งบอกว่ามีการติดเชื้อที่รุนแรงเป็นหนอง หากสังเกตพบลักษณะผิดปกติเหล่านี้ต้องหยุดการใส่คอนแทคเลนส์ และรีบพบจักษุแพทย์ทันที
การรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบจากการใส่คอนแทคเลนส์
การรักษาที่ดีที่สุด คือ การป้องกันโดยการหยุดใส่คอนแทคเลนส์ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่บางครั้งถ้าจำเป็นต้องใส่อยู่ การหยุดพักการใส่คอนแทคเลนส์สักระยะก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดการกระตุ้นการอักเสบ
ถ้าอักเสบไม่มาก การใช้น้ำตาเทียม (artifical tears) หยอดตาก็สามารถลดอาการระคายเคืองได้ น้ำตาเทียมมีทั้งชนิดมีสารกันเสีย ซึ่งเหมาะกับการใช้เป็นครั้งคราว และชนิดไม่มีสารกันเสีย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อย
ถ้ามีการอักเสบมาก จำเป็นต้องใช้ยาลดการอักเสบร่วมซึ่งมีหลายประเภทขึ้นกับความรุนแรงของการอักเสบ ยาบางตัวอาจมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และอยู่ในการดูแลของจักษุแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อใช้เอง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้
ยาลดการอักเสบและป้องกันการอักเสบในระยะยาว เป็นอีกกลุ่มหนึ่งสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาเป็นเวลานานๆ ต้องใส่คอนแทคเลนส์ หรือผู้ทำงานสัมผัสฝุ่น และแสงเป็นประจำซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบเรื้อรังได้ ยากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ออกฤทธิ์ยาว ใช้เพียง 1-2 ครั้งต่อวัน จึงลดความยุ่งยากในการหยอดลงและใช้ระยะยาวได้ และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้ยาผสมสเตียรอยด์ การใช้ยากลุ่มนี้รักษาต่อเนื่องจะช่วยให้อาการดีขึ้น และช่วยลดการเป็นซ้ำได้
ยาลดการอักเสบชนิดรับประทานใช้เสริมการรักษาในรายที่มีอาการมาก ควรใช้เป็นครั้งคราวเนื่องจากมีผลต่อร่างกายมากกว่ายาหยอดตา
การรักษาโดยการผ่าตัดจะทำในผู้ที่มีการอักเสบรุนแรงมากจนเกิดเป็นแผลที่กระจกตาหรือเยื่อบุตา ซึ่งทำให้การมองเห็นแย่ลง และอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้นไม่ควรละเลยจนอาการเป็นมากถึงระดับนี้
กรณีที่ติดเชื้อจากการใส่คอนแทคเลนส์ จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เนื่องจากเชื้อโรคที่รุนแรงอาจทำให้เกิดแผลเป็นและสูญเสียการมองเห็นได้
ยาปฏิชีวนะที่ใช้นิยมเป็นยาหยอดตาเพื่อออกฤทธิ์โดยตรงที่ตำแหน่งเชื้อ จำเป็นต้องใช้ยาที่มีความเข้มข้นสูง และต้องหยอดถี่มากในช่วงแรกจนกว่าอาการจะดีขึ้นจึงลดปริมาณลง บางรายที่เป็นมากอาจจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
การเลือกใช้คอนแทคเลนส์
• การเลือกชนิดคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมมีความสำคัญในการลดโอกาสเกิดการอักเสบ ควรเลือกชนิดที่มีการซึมผ่านออกซิเจนได้ดี เช่น ชนิด silicone hydrogel
• คอนแทคเลนส์แบบรายวันมักมีปัญหาน้อยกว่าแบบรายเดือน หรือรายปี เพราะสามารถตัดปัจจัยเรื่องความสะอาดของคอนแทคเลนส์ และไม่ต้องใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบได้
• การตรวจวัดความโค้งของตา เพื่อเลือกคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม ก็มีความสำคัญในการใส่คอนแทคเลนส์ ความโค้งที่มากไปทำให้ไม่สบายตา แต่ความโค้งที่น้อยไป อาจทำให้คอนแทคเลนส์หลุดง่าย จักษุแพทย์จะช่วยเลือกให้ผู้ต้องการใส่ได้
การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม และการดูแลทำความสะอาดที่ถูกต้อง จะช่วยให้การใส่คอนแทคเลนส์ปลอดภัยขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
คอนแทคเลนส์ (contact lens) มีใช้มานานกว่า 100 ปีแล้ว เพื่อช่วยการมองเห็นให้ดีขึ้น บางชนิดเพื่อความสวยงาม หรือใช้เพื่อรักษาโรคตาบางอย่าง แม้ว่ามีการพัฒนาการออกแบบคอนแทคเลนส์ให้ใส่สบายตาขึ้น นุ่มนวลขึ้น แต่คอนแทคเลนส์ก็ถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับดวงตาอยู่ดี และเนื่องจากคอนแทคเลนส์ต้องสัมผัสกับดวงตาเราโดยตรง จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาได้หากไม่ได้ดูแลให้ดีพอ
การใช้คอนแทคเลนส์อาจก่อให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบ คือ การอักเสบระคายเคืองที่เยื่อบุตา หรือตาขาวมีสาเหตุได้จากหลายประการ เช่น เลือกชนิดคอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม ระคายเคืองจากน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ การระคายเคืองจากการที่ใส่เป็นเวลานานในแต่ละวัน หรือการใช้ต่อเนื่องกันนานหลายปี
อาการเยื่อบุตาอักเสบ เช่น เคืองตา แสบตา รู้สึกระคายตาเหมือนมีเม็ดทรายในตา ตาแดง บวม คันตา ต้องขยี้ตาบ่อยๆ ถ้าเป็นมากอาจมีปัญหาเวลาใส่คอนแทคเลนส์แล้วเจ็บตา หรืออาจถอดคอนแทคเลนส์ยากขึ้น บางครั้งขณะใส่คอนแทคเลนส์ ตัวคอนแทคเลนส์อาจหลุดออกมาเอง หรือคอนแทคเลนส์เลื่อนง่ายเวลากระพริบตา เป็นต้น
ผู้ที่มีเยื่อบุตาอักเสบมาก จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่กระจกตาสูงกว่าคนทั่วไป เพราะเชื้อโรคต่างๆ สามารถเข้าเนื้อเยื่อที่อ่อนแอนี้ได้ง่าย
กระจกตาอักเสบติดเชื้อในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์มักจะมีอาการรุนแรง เนื่องจากเชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็นเชื้อก่อโรคที่มีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อสูง
อาการกระจกตาอักเสบติดเชื้อ เช่น เคืองตามาก ตามัวลง ตาแดง และมีขี้ตามาก อาจพบจุดฝ้าขาวที่กระจกตาซึ่งบ่งบอกว่ามีการติดเชื้อที่รุนแรงเป็นหนอง หากสังเกตพบลักษณะผิดปกติเหล่านี้ต้องหยุดการใส่คอนแทคเลนส์ และรีบพบจักษุแพทย์ทันที
การรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบจากการใส่คอนแทคเลนส์
การรักษาที่ดีที่สุด คือ การป้องกันโดยการหยุดใส่คอนแทคเลนส์ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่บางครั้งถ้าจำเป็นต้องใส่อยู่ การหยุดพักการใส่คอนแทคเลนส์สักระยะก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดการกระตุ้นการอักเสบ
ถ้าอักเสบไม่มาก การใช้น้ำตาเทียม (artifical tears) หยอดตาก็สามารถลดอาการระคายเคืองได้ น้ำตาเทียมมีทั้งชนิดมีสารกันเสีย ซึ่งเหมาะกับการใช้เป็นครั้งคราว และชนิดไม่มีสารกันเสีย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อย
ถ้ามีการอักเสบมาก จำเป็นต้องใช้ยาลดการอักเสบร่วมซึ่งมีหลายประเภทขึ้นกับความรุนแรงของการอักเสบ ยาบางตัวอาจมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และอยู่ในการดูแลของจักษุแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อใช้เอง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้
ยาลดการอักเสบและป้องกันการอักเสบในระยะยาว เป็นอีกกลุ่มหนึ่งสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาเป็นเวลานานๆ ต้องใส่คอนแทคเลนส์ หรือผู้ทำงานสัมผัสฝุ่น และแสงเป็นประจำซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบเรื้อรังได้ ยากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ออกฤทธิ์ยาว ใช้เพียง 1-2 ครั้งต่อวัน จึงลดความยุ่งยากในการหยอดลงและใช้ระยะยาวได้ และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้ยาผสมสเตียรอยด์ การใช้ยากลุ่มนี้รักษาต่อเนื่องจะช่วยให้อาการดีขึ้น และช่วยลดการเป็นซ้ำได้
ยาลดการอักเสบชนิดรับประทานใช้เสริมการรักษาในรายที่มีอาการมาก ควรใช้เป็นครั้งคราวเนื่องจากมีผลต่อร่างกายมากกว่ายาหยอดตา
การรักษาโดยการผ่าตัดจะทำในผู้ที่มีการอักเสบรุนแรงมากจนเกิดเป็นแผลที่กระจกตาหรือเยื่อบุตา ซึ่งทำให้การมองเห็นแย่ลง และอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้นไม่ควรละเลยจนอาการเป็นมากถึงระดับนี้
กรณีที่ติดเชื้อจากการใส่คอนแทคเลนส์ จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เนื่องจากเชื้อโรคที่รุนแรงอาจทำให้เกิดแผลเป็นและสูญเสียการมองเห็นได้
ยาปฏิชีวนะที่ใช้นิยมเป็นยาหยอดตาเพื่อออกฤทธิ์โดยตรงที่ตำแหน่งเชื้อ จำเป็นต้องใช้ยาที่มีความเข้มข้นสูง และต้องหยอดถี่มากในช่วงแรกจนกว่าอาการจะดีขึ้นจึงลดปริมาณลง บางรายที่เป็นมากอาจจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
การเลือกใช้คอนแทคเลนส์
• การเลือกชนิดคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมมีความสำคัญในการลดโอกาสเกิดการอักเสบ ควรเลือกชนิดที่มีการซึมผ่านออกซิเจนได้ดี เช่น ชนิด silicone hydrogel
• คอนแทคเลนส์แบบรายวันมักมีปัญหาน้อยกว่าแบบรายเดือน หรือรายปี เพราะสามารถตัดปัจจัยเรื่องความสะอาดของคอนแทคเลนส์ และไม่ต้องใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบได้
• การตรวจวัดความโค้งของตา เพื่อเลือกคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม ก็มีความสำคัญในการใส่คอนแทคเลนส์ ความโค้งที่มากไปทำให้ไม่สบายตา แต่ความโค้งที่น้อยไป อาจทำให้คอนแทคเลนส์หลุดง่าย จักษุแพทย์จะช่วยเลือกให้ผู้ต้องการใส่ได้
การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม และการดูแลทำความสะอาดที่ถูกต้อง จะช่วยให้การใส่คอนแทคเลนส์ปลอดภัยขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
Medical Center: Eye Center
Publish date desc: 12/11/2024
Author doctor
Col.Asst.Prof. Dr. Theeratep Tantayakom
Specialty
จักษุแพทย์ทางด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ