มารู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) กันเถอะ

โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายทำงานผิดปกติ จนก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ว่าแต่สาเหตุของโรคนี้เกิดจากอะไร และมีอาการอย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลมาฝากค่ะ โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยภูมิคุ้มกันจะต่อต้านและทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะต่าง ๆ จนเกิดเป็นอาการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคแพ้ภูมิตัวเองนั้น ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคได้ แต่มีบางปัจจัยที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ได้แก่ พันธุกรรม การติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต และแสงแดด เป็นต้น พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในช่วงวัยเจริญพันธุ์

อาการโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

• เหนื่อยล้า อ่อนแรง
• มีแผลในปาก
• ผมร่วง
• มีไข้ ปวดหัว
• มีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า
• ผิวไวต่อแสงแดด
• เกิดภาวะโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวหรือเกร็ดเลือดต่ำ
• ปวดบวมตามข้อ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• มีการอักเสบของปอดหรือหัวใจ
• ถ้าไตอักเสบ มีบวม ปัสสาวะน้อย ความดันโลหิตสูง
• แขนขาอ่อนแรง ไม่มีสมาธิ มีปัญหาในการจำ ถ้ารุนแรงอาจมีเพ้อ สับสน ชัก

การรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเป็นว่ามากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละคนอาการจะมีความรุนแรงของโรคไม่เท่ากัน และวางแผนการรักษาด้วยการให้ยา เช่น ยาปรับภูมิคุ้มกัน ยากดภูมิคุ้มกัน หรือกลุ่มยาสเตียรอยด์แล้วแต่กรณี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777