สำคัญแค่ไหน "ทำไมต้องตรวจก่อนแต่งงาน"
คู่รักที่กำลังเตรียมตัวสร้างครอบครัวใหม่ควรให้ความสำคัญกับการเช็คร่างกายของตัวเราเองก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจเพื่อให้ทราบว่าทั้งตัวเราและคู่รักของเราว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ เพราะในอนาคตเราต้องดูแลและอยู่ด้วยกันไปอีกนาน เพราะเมื่อเข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคติดต่อต่างๆ ตามมา จึงควรต้องเช็คก่อนว่าทั้งคู่มีโรคติดเชื้อหรือไม่ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซิฟิลิส เอชไอวี นอกจากนี้ การตรวจก่อนแต่งยังมีส่วนสำคัญในการวางแผนที่จะมีบุตร เพราะทำให้ทราบว่าเราและคู่สมรสมียีนหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ เนื่องจากโรคทางพันธุกรรมบางโรคจะไม่แสดงอาการ แต่อาจจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติของบุตรในอนาคตได้ อีกทั้งยังสามารถประเมินความเสี่ยงที่จะมีบุตรยากในเบื้องต้นได้อีกด้วย
ผลการตรวจทำให้เรารู้อะไรบ้าง
- ความผิดปกติของเลือด เริ่มตั้งแต่การตรวจลักษณะของเม็ดเลือดพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด เพื่อดูความผิดปกติและโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดหรือไม่ มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติหรือไม่ รวมถึงการตรวจหมู่เลือดอีกด้วย ในบางรายมีหมู่เลือดพิเศษ ซึ่งต้องมีการดูแลเป็นพิเศษเมื่อตั้งครรภ์ดูเรื่องการติดเชื้อต่างๆ นอกจากการตรวจสอบเรื่องการติดเชื้อแล้ว
- การตรวจภูมิต้านทานโรคติดเชื้อ ในบางรายที่ไม่มีภูมิต้านเชื้อบางตัว แพทย์จะเพิ่มภูมิให้ผู้เข้ารับบริการโดยการฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมก่อนตั้งครรภ์ ในกรณีคุณแม่ได้รับการติดเชื้อบางอย่างจะส่งผลถึงบุตรได้ ในบางครั้งส่งผลอย่างรุนแรงถึงทารก ถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ได้ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคหัดเยอรมัน หรือโรคไวรัสตับอักเสบบี
- การตรวจเอกซเรย์ปอด หัวใจ
- การทำอัลตราซาวด์ดูลักษณะของมดลูก รังไข่ ว่ามีก้อนเนื้องอกอะไรผิดปกติหรือไม่ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต
ควรตรวจก่อนแต่งงานนานแค่ไหน
ควรมาตรวจก่อนแต่งงานอย่างน้อยประมาณ 3 เดือน ถ้าพบความผิดปกติเบื้องต้นก็ยังสามารถที่จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปของโรคว่าจะมีข้อควรระวังในการใช้ชีวิตร่วมกันหรือการตั้งครรภ์ในอนาคตหรือไม่อย่างไร
การเตรียมตัวก่อนรับการตรวจ
ขั้นตอนไม่มีความซับซ้อน เพียงสำรวจประวัติคนในครอบครัวว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ เพราะแพทย์ควรต้องทราบเพื่อที่จะดำเนินการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ควรเลี่ยงวันที่มีประจำเดือนเพราะว่าบางครั้งการตรวจแพทย์จำเป็นต้องตรวจภายในร่วมด้วย หรือเลือกช่วงเวลาตรวจหลังหลังหมดประจำเดือนจะดีที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
ผลการตรวจทำให้เรารู้อะไรบ้าง
- ความผิดปกติของเลือด เริ่มตั้งแต่การตรวจลักษณะของเม็ดเลือดพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด เพื่อดูความผิดปกติและโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดหรือไม่ มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติหรือไม่ รวมถึงการตรวจหมู่เลือดอีกด้วย ในบางรายมีหมู่เลือดพิเศษ ซึ่งต้องมีการดูแลเป็นพิเศษเมื่อตั้งครรภ์ดูเรื่องการติดเชื้อต่างๆ นอกจากการตรวจสอบเรื่องการติดเชื้อแล้ว
- การตรวจภูมิต้านทานโรคติดเชื้อ ในบางรายที่ไม่มีภูมิต้านเชื้อบางตัว แพทย์จะเพิ่มภูมิให้ผู้เข้ารับบริการโดยการฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมก่อนตั้งครรภ์ ในกรณีคุณแม่ได้รับการติดเชื้อบางอย่างจะส่งผลถึงบุตรได้ ในบางครั้งส่งผลอย่างรุนแรงถึงทารก ถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ได้ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคหัดเยอรมัน หรือโรคไวรัสตับอักเสบบี
- การตรวจเอกซเรย์ปอด หัวใจ
- การทำอัลตราซาวด์ดูลักษณะของมดลูก รังไข่ ว่ามีก้อนเนื้องอกอะไรผิดปกติหรือไม่ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต
ควรตรวจก่อนแต่งงานนานแค่ไหน
ควรมาตรวจก่อนแต่งงานอย่างน้อยประมาณ 3 เดือน ถ้าพบความผิดปกติเบื้องต้นก็ยังสามารถที่จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปของโรคว่าจะมีข้อควรระวังในการใช้ชีวิตร่วมกันหรือการตั้งครรภ์ในอนาคตหรือไม่อย่างไร
การเตรียมตัวก่อนรับการตรวจ
ขั้นตอนไม่มีความซับซ้อน เพียงสำรวจประวัติคนในครอบครัวว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ เพราะแพทย์ควรต้องทราบเพื่อที่จะดำเนินการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ควรเลี่ยงวันที่มีประจำเดือนเพราะว่าบางครั้งการตรวจแพทย์จำเป็นต้องตรวจภายในร่วมด้วย หรือเลือกช่วงเวลาตรวจหลังหลังหมดประจำเดือนจะดีที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์สุขภาพสตรี
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 08/04/2022
แพทย์ผู้เขียน
พญ. กมลภัทร วิจักขณ์พันธ์
ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์