เด็กหลอดแก้ว คืออะไร?
"รู้จักกับการรักษาการมีบุตรยาก ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว"
การทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เป็นวิธีการรักษาโรคมีบุตรยากด้วยวิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ในหลอดทดลอง จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้มาเพาะเลี้ยงต่อจนอายุ 3-5 วัน จึงนำกลับเข้าสู่ร่างกายฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป
IVF หรือ เด็กหลอดแก้ว ก็เป็นนวัตกรรมที่มีความทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้อย่างที่ต้องการ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่
เด็กที่เกิดจากวิธีทำเด็กหลอดแก้ว จะแตกต่างจากเด็กทั่วไปหรือไม่? โดยการวิจัยของ ประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย กล่าวคือ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน พบว่า ไม่มีความแตกต่างใดจากทารกที่เกิดโดยวิธีธรรมชาติ มีอัตราความพิการแต่กำเนิดไม่แตกต่างกัน แต่อาจจะมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า ซึ่งสิ่งนี้คงจะต้องเป็นว่าที่คุณพ่อ คุณแม่ ในการประคบประหงม โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาทขึ้นไป ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ใน บทความ “รักษาการมีบุตรยาก : เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงิน”
"โอกาสสำเร็จและความเสี่ยงของการทำเด็กหลอดแก้ว"
บ่อยครั้งที่มีการถามเข้ามากันบ่อยๆ ว่าการทำเด็กหลอดแก้ว จะมีโอกาสสำเร็จจนถึงตั้งครรภ์เพียงใด โดยความเป็นไปได้ของการมีลูกจากการทำเด็กหลอดแก้ว ในกลุ่มผู้หญิงอายุ 34 ปีลงมา อยู่ที่ 30-40% ในการถ่ายฝากตัวอ่อนครั้งแรก และอัตราการเกิดลดต่ำลงมากในกลุ่มผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป เพราะคุณภาพของไข่ในฝ่ายหญิงจะเปลี่ยนแปลงตามอายุ และอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น ฝ่ายหญิงมีมดลูกไม่แข็งแรงหรือมดลูกทำงานผิดปกติ หรือมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงและเป็นอันตรายหากตั้งครรภ์
ทั้งนี้หากเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าผู้ป่วยจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเอง ก็จะมีอีกหนึ่งวิธีที่ผู้อยากมีบุตรทำกัน คือ เก็บไข่และสเปิร์มของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว แล้วใส่กลับเข้าไปให้อาสาสมัครที่ไว้ใจตั้งครรภ์แทนได้ หรือหากไม่สามารถใช้สเปิร์มของฝ่ายชายได้ สามารถเลือกรับสเปิร์มที่มีผู้บริจาคได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการรักษาการมีบุตรยากมิได้มีแต่เพียง การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF เท่านั้น แต่ยังมีวิธีการอื่นๆ ซึ่งเหมาะกับอาการป่วยของแต่ละคู่ ในมุมที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถเปรียบเทียบ ข้อดี - ข้อเสีย ของการทำเด็กหลอกแก้ว และเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการมีลูกแบบอื่นๆ ได้ที่ บทความ “ทางเลือกในการรักษาของผู้มีบุตรยาก”
"การเตรียมตัวของพ่อแม่ที่ต้องการรักษา การมีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว"
ก่อนที่จะสำเร็จในข้อมูลข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า อนาคตคุณพ่อ คุณแม่ ที่จะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF จนกระทั่งได้เจ้าตัวน้อยมาอุ้มต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
การปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายหญิง
การปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายชาย
ทั้งนี้สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนคิดทำเด็กหลอดแก้ว คือ อาจไม่สำเร็จในการทำครั้งแรก แต่หากทำครั้งแรกไม่สำเร็จ สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้อีกครั้ง ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน หรือเตรียมจิตใจ เมื่อพร้อม โดยการปรึกษาแพทย์เพื่อดูอาการอย่างต่อเนื่อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
การทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เป็นวิธีการรักษาโรคมีบุตรยากด้วยวิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ในหลอดทดลอง จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้มาเพาะเลี้ยงต่อจนอายุ 3-5 วัน จึงนำกลับเข้าสู่ร่างกายฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป
IVF หรือ เด็กหลอดแก้ว ก็เป็นนวัตกรรมที่มีความทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้อย่างที่ต้องการ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่
- รังไข่บวม เนื่องจากได้รับฮอร์โมนกระตุ้นมากเกินไป
- ตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ในท่อนำไข่แทนที่จะเป็นมดลูก
- เกิดความเครียด เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจหลายอย่าง
- ได้รับผลข้างเคียงจากยา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว กระสับกระส่าย ร้อนวูบวาบและอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย
- เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยมาก
- เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ในขั้นตอนการเก็บไข่ เช่น การติดเชื้อ เลือดออก
- มีโอกาสตั้งครรภ์แฝด ซึ่งหากสุขภาพของคุณแม่ไม่แข็งแรง ก็อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือทารกมีน้ำหนักตัวน้อยได้
เด็กที่เกิดจากวิธีทำเด็กหลอดแก้ว จะแตกต่างจากเด็กทั่วไปหรือไม่? โดยการวิจัยของ ประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย กล่าวคือ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน พบว่า ไม่มีความแตกต่างใดจากทารกที่เกิดโดยวิธีธรรมชาติ มีอัตราความพิการแต่กำเนิดไม่แตกต่างกัน แต่อาจจะมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า ซึ่งสิ่งนี้คงจะต้องเป็นว่าที่คุณพ่อ คุณแม่ ในการประคบประหงม โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาทขึ้นไป ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ใน บทความ “รักษาการมีบุตรยาก : เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงิน”
"โอกาสสำเร็จและความเสี่ยงของการทำเด็กหลอดแก้ว"
บ่อยครั้งที่มีการถามเข้ามากันบ่อยๆ ว่าการทำเด็กหลอดแก้ว จะมีโอกาสสำเร็จจนถึงตั้งครรภ์เพียงใด โดยความเป็นไปได้ของการมีลูกจากการทำเด็กหลอดแก้ว ในกลุ่มผู้หญิงอายุ 34 ปีลงมา อยู่ที่ 30-40% ในการถ่ายฝากตัวอ่อนครั้งแรก และอัตราการเกิดลดต่ำลงมากในกลุ่มผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป เพราะคุณภาพของไข่ในฝ่ายหญิงจะเปลี่ยนแปลงตามอายุ และอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น ฝ่ายหญิงมีมดลูกไม่แข็งแรงหรือมดลูกทำงานผิดปกติ หรือมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงและเป็นอันตรายหากตั้งครรภ์
ทั้งนี้หากเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าผู้ป่วยจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเอง ก็จะมีอีกหนึ่งวิธีที่ผู้อยากมีบุตรทำกัน คือ เก็บไข่และสเปิร์มของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว แล้วใส่กลับเข้าไปให้อาสาสมัครที่ไว้ใจตั้งครรภ์แทนได้ หรือหากไม่สามารถใช้สเปิร์มของฝ่ายชายได้ สามารถเลือกรับสเปิร์มที่มีผู้บริจาคได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการรักษาการมีบุตรยากมิได้มีแต่เพียง การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF เท่านั้น แต่ยังมีวิธีการอื่นๆ ซึ่งเหมาะกับอาการป่วยของแต่ละคู่ ในมุมที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถเปรียบเทียบ ข้อดี - ข้อเสีย ของการทำเด็กหลอกแก้ว และเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการมีลูกแบบอื่นๆ ได้ที่ บทความ “ทางเลือกในการรักษาของผู้มีบุตรยาก”
"การเตรียมตัวของพ่อแม่ที่ต้องการรักษา การมีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว"
ก่อนที่จะสำเร็จในข้อมูลข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า อนาคตคุณพ่อ คุณแม่ ที่จะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF จนกระทั่งได้เจ้าตัวน้อยมาอุ้มต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
การปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายหญิง
- เพื่อคุณภาพไข่ที่ดีควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 2 ลิตร และรับประทานโปรตีน อย่างน้อยวันละประมาณ 60 มิลลิกรัม
- ควรงดแอลกฮอร์ งดสูบบุหรี่เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการดื่มการแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ทุกครั้งที่มีการรับยาเพื่อบรรเทาอาการป่วยควรปรึกาาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- ออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป
- พักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
การปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายชาย
- หลีกเลี่ยงการลงแช่อ่างน้ำอุ่นและการทำซาวน่า
- ไม่สวมใส่กางเกงชั้นในที่แน่นจนเกินไป
- งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ 3 เดือนขึ้นไปเช่นเดียวกับฝ่ายหญิง
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 3 วันก่อนการเก็บเชื้ออสุจิ เพื่อตรวจหรือเพื่อนำไปใช้ผสมกับไข่
- ออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป
- พักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียดจนเกินไป
ทั้งนี้สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนคิดทำเด็กหลอดแก้ว คือ อาจไม่สำเร็จในการทำครั้งแรก แต่หากทำครั้งแรกไม่สำเร็จ สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้อีกครั้ง ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน หรือเตรียมจิตใจ เมื่อพร้อม โดยการปรึกษาแพทย์เพื่อดูอาการอย่างต่อเนื่อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์สุขภาพสตรี
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 11/04/2022
แพทย์ผู้เขียน
พญ. พิมพกา ชวนะเวสน์
ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านรักษาผู้มีบุตรยาก