7 พฤติกรรมเสี่ยงเป็น Shopaholic

เคยสังเกตตัวเองบ้างไหมคะว่าการที่เราจับจ่ายซื้อของกันอยู่ทุกวันนี้เป็นเรื่องปกติหรือผิดปกติ ซึ่งบางคนมีพฤติกรรมชอบการช้อปปิ้งที่มากเกินไปจนถึงขั้นเสพติด ยิ่งเห็นป้าย sale หรือโปรโมชันลดราคาจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการตอบสนอง ลองมาเช็กอาการกันว่าเรากำลังเข้าข่ายเป็น Shopaholic หรือไม่

Shopaholic คืออะไร ?
Shopaholic หรือ Compulsive Buying Disorder (Oniomania) เป็นพฤติกรรมที่มีอาการเสพติดการซื้อของตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงสถานะทางการเงินของตนเอง มีความรู้สึกดีที่ได้เดินดูของ หรือเมื่อได้ซื้อของ มักจับจ่ายเกินความจำเป็น บางครั้งซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมีของเดิมๆ เต็มไปหมด จนทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น มีหนี้สิน ทะเลาะกับคนในครอบครัว มีพฤติกรรมโกหกเกี่ยวกับราคาสินค้าที่ซื้อมา หรือหลอกว่าไม่ได้ซื้อของเหล่านั้น เป็นต้น Shopaholic พบได้ตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไป สามารถพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องกับ Shopaholic เช่น
• มีภาวะซึมเศร้า มีความวิตกกังวล
• รู้สึกไม่มีความภาคภูมิใจในตนเอง
• สื่อโฆษณา เช่น เห็นรีวิวตามช่องทางต่าง ๆ ทำให้เกิดความอยากได้
• ความสะดวกสบายในการซื้อของ เช่น การช้อปปิ้งออนไลน์

อาการของ Shopaholic
• เสพติดการซื้อของอย่างหนัก เป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์
• ใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงิน หรือเปิดบัตรใบใหม่ โดยยังไม่ได้ชำระหนี้ของบัตรใบเก่า
• ซื้อของโดยไม่คำนึงถึงความจำเป็น หรือซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้
• ไปช้อปปิ้งเพื่อคลายเครียด หรือมีความสุขมากหลังได้ช้อปปิ้ง
• มีความรู้สึกผิดหรือเสียใจหลังได้ช้อปปิ้ง แต่ก็จะทำต่อไป
• ไม่สามารถยับยั้งพฤติกรรมการช้อปปิ้งได้
• โกหกหรือลักขโมยเพื่อให้ได้ช้อปปิ้งต่อ

เมื่อใดที่ต้องพบแพทย์
การไม่สามารถควบคุมการซื้อของนั้นเริ่มส่งผลกระทบกับชีวิต เช่น เริ่มมีปัญหาการเงิน มีปัญหาความสัมพันธ์ เป็นต้น

การรักษา
การรักษาภาวะนี้จะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่จิตแพทย์จะรักษาด้วยการบำบัดแบบปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioural Therapy: CBT) ให้คำปรึกษาเป็นการส่วนตัว หากยังไม่สามารถควบคุมอาการได้ บางรายเกิดจากโรคอื่นๆ  เช่น  ภาวะวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ การรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอาจช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้

แพทย์ผู้เขียน: นพ.พงศธร เนตราคม และ นพ.จุมพล ตัณฑโอภาส

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777